อย่างที่เข้าใจกันมานมนานนั่นแหละ อาร์เซนอล เป็นทีมที่เหมือนจะไปถึงฝั่งฝัน แต่ก็มักจะตบะแตกหรือไม่ก็แพ้ภัยตนเองอยู่เป็นประจำ ยิ่งถ้าหากมีผู้เล่นตัวหลักทะยอยกันบาดเจ็บ ก็ไม่ต้องหาข้ออ้างมาแก้ตัวอะไรทั้งสิ้น กูรูทั้งหลายแหล่เตรียมการันตีผลงานทิ้งดิ่งลงเหวรอได้เลย

แต่หากนับเฉพาะ 2 ฤดูกาลหลังสุด ทุกอย่างถูกเติมด้วยประสบการณ์ที่เคยพลั้งพลาด พวกเขามีขุมกำลังที่ใหญ่ขึ้นโดยเฉพาะนักเตะบนม้านั่งสำรองที่พาเหรดกันทำผลงานได้ดี จนเข้าใจในคำว่า "ถึงสำรองแต่ก็สำคัญ"

ผ่านไปแล้ว 28 นัดในพรีเมียร์ลีก สิ่งที่สัมผัสได้จากผลงานการเชิดหน้าชูตาอยู่ด้านบนสุดของตารางคะแนนก็คือ "พวกเขาชนะท้ายเกม" บ่อยมาก

เอาเข้าจริงบริบทของการเป็น "ผู้ชนะช่วงท้ายเกม" ส่วนนึงก็มาจากการแก้เกม และเปลี่ยนตัวสำรองได้ถูกคน ซึ่งความดีความชอบตรงนี้ขอยกให้ มิเกล อาร์เตต้า ที่ยกระดับทีมขึ้นมาชนิดที่เรียกว่าหน้ามือเป็นหลังมือ

มีถึง 10 ประตูที่สะท้อนประโยคจากข้างต้นทั้งหมด เหล่าบรรดาตัวสำรองลงมาคว้า 3 คะแนนจากคู่แข่งได้สำเร็จ ที่พอนึกออกก็คงจะมีประมาณนี้ หากไม่ครบต้องขออภัยด้วยครับ

ไค ฮาแวร์ตซ์  เปลี่ยนตัวนาที 79 ยิงประตูนาที 89

ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 0-1

มาร์ติน โอเดการ์ด เปลี่ยนตัวนาที 80 ยิงประตูนาที 90+6

แพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-1

ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ เปลี่ยนตัวนาที 66 ยิงประตูนาที 90+6

ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 5-0

ฟาบิโอ วิเอร่า เปลี่ยนตัวนาที 66 ยิงประตูนาที 88

ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 5-0

เลอันโดร ทรอสซาร์ด เปลี่ยนตัวนาที 78 ยิงประตูนาที 90+1

เสมอ เชลซี 2-2

กาเบรียล มาร์ติเนลลี เปลี่ยนตัวนาที 46 ยิงประตูนาที 86

ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0

เลอันโดร ทรอสซาร์ด เปลี่ยนตัวนาที 24 ยิงประตูนาที 69

ชนะ เอฟเวอร์ตัน 0-1

กาเบรียล เฆซุส เปลี่ยนตัวนาที 76 ยิงประตูนาที 90+1 

ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1

เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ เปลี่ยนตัวนาที 46 ยิงประตูนาที 72

เสมอ ฟูแล่ม 2-2 

เลอันโดร ทรอสซาร์ด เปลี่ยนตัวนาที 75 ยิงประตูนาที 90+1

เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 (คอมมูนิตี้ ชิลด์)

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าศักยภาพขุมกำลังเชิงลึกของทีมในตอนนี้ ถึงแม้มันจะยังไม่สามารถเทียบกับอีก 2 ทีมลุ้นแชมป์ได้ แต่สิ่งเหล่านี้แหละ! ที่จะเป็นหมากสำคัญสำหรับการต่อกรของพวกเราอย่างแท้จริง

เขียนโดย The Lite Team

LS Sport ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง